เมนู

เรียกว่า เพราะเข้าไปสงบธรรมใด ๆ เป็นปัจจัย. เวทนานั้น ๆ ท่านประสงค์
แล้ว เพราะเป็นธรรมอันตรงกันข้ามกับธรรมนั้น ๆ เป็นปัจจัย. ส่วนในบท
เป็นอาทิว่า ฉนฺทวูปสมปจฺจยา พึงทราบเวทนาในปฐมฌานก่อน เพราะ
ฉันทะสงบเป็นปัจจัย. เวทนาในทุติยฌาน เพราะวิตกสงบเป็นปัจจัย เวทนา
ในสัญญาสมาบัติ 6 เพราะสัญญาเป็นปัจจัย เวทนาในเนวสัญญานาสัญญายตนะ
เพราะสัญญาสงบเป็นปัจจัย. บทเป็นอาทิว่า ฉนฺโท จ วูปสนฺโต มีเนื้อ
ความอันกล่าวแล้วแล.
จบอรรถกถาวิหารสูตรที่ 2

3. เสขสูตร



องค์ 8 ของพระเสขะ


[51] สาวัตถีนิทาน. ครั้งนั้นแล ภิกษุรูปหนึ่งเข้าไปเฝ้าพระผู้มี-
พระภาคเจ้าถึงที่ประทับ ฯลฯ ครั้นแล้วได้ทูลถามพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า
ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ที่เรียกว่า พระเสขะ ๆ ดังนี้ ด้วยเหตุเพียงเท่าไรหนอ
จึงจะชื่อว่าเป็นพระเสขะ พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า ดูก่อนภิกษุ ภิกษุ
ในธรรมวินัยนี้ ประกอบด้วยสัมมาทิฏฐิอันเป็นของพระเสขะ ฯลฯ ประกอบ
ด้วยสัมมาสมาธิอันเป็นของพระเสขะ ดูก่อนภิกษุ ด้วยเหตุเพียงเท่านี้แล
จึงจะชื่อว่าเป็นพระเสขะ.
จบเสขสูตรที่ 3

อรรถกถาเสขสูตร



พึงทราบวินิจฉัยในเสขสูตรที่ 3.
บทว่า เสโข แปลว่า ผู้ยังต้องศึกษา. ถามว่า ย่อมศึกษาอะไร.
ตอบว่า ย่อมศึกษาสิกขา 3. บทว่า เสขาย ความว่า เกิดขึ้นแล้ว
พร้อมด้วยผล 3 และมรรค 4. ชื่อว่า เสขะ เพราะอรรถว่า เขายังต้อง
ศึกษากิจของตน เหตุยังมีกิจไม่สำเร็จแล.
จบอรรถกถาเสขสูตรที่ 3

4. ปฐมอุปปาทสูตร



ธรรม 8 มีเพราะการปรากฏแห่งพระตถาคต


[52] สาวัตถีนิทาน. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ธรรม 8 ประการนี้
อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ที่ยังไม่เกิดย่อมเกิดขึ้น ไม่เกิดขึ้น
นอกจากความปรากฏแห่งพระตถาคตอรหันตสัมมาสัมพุทธเจ้า ธรรม 8 ประการ
เป็นไฉน คือ สัมมาทิฏฐิ ฯลฯ สัมมาสมาธิ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
ธรรม 8 ประการนี้แล อันบุคคลเจริญแล้ว กระทำให้มากแล้ว ที่ยังไม่เกิด
ย่อมเกิดขึ้น ไม่เกิดขึ้นนอกจากความปรากฏแห่งพระตถาคตอรหันตสัมมา-
สัมพุทธเจ้า.
จบปฐมอุปปาทสูตรที่ 4